ทุนจีนครองเมือง! ระเบิดเวลาประเทศไทย เมื่อจีนเข้ามา Disrupt ไทยในทุกมิติ

Highlight

“The Dragon in Panda’s Clothing” เมื่อมังกรแฝงตัวมาในคราบแพนด้าที่ดูเหมือนจะไร้พิษภัย

“มลฑลไท่กั๋ว” เมื่อไทยถูกเรียกเป็นประเทศจีนสาขาสอง เพราะไทยกำลังถูกประเทศจีนแทรกซึมในแทบทุกมิติ จะมีอะไรบ้างที่คนจีนรุกคืบเข้ามา #Agenda สรุปมาให้แล้ว!

.

– Platform Disrupt

แพลตฟอร์มที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในประเทศไทยคงหนีไม่พ้น Tiktok ที่มียอดผู้ใช้งานภายในประเทศไทยมากถึง 44 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอีกด้วย แต่จุดเริ่มต้นของ Tiktok นี้มาจากแอปที่ชื่อว่า Douyin ซึ่งมีลักษณะการใช้งานเหมือนกับ Tiktok ทุกประการเพียงแต่จำกัดวงใช้อยู่แต่เพียงในประเทศจีนเท่านั้น

.

อีก 2 แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในไทยเช่นกันคือ Wechat ที่มียอดผู้ใช้งานคนไทยมากถึง 2.5 ล้านซึ่งถือว่าเยอะเป็นอันดับที่ 10 ของโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้เพื่อการสื่อสารกับคนไทยหรือคนจีนที่อาศัยอยู่ภายในประเทศจีน เพราะเป็นแพลตฟอร์ม chat ที่ใช้ในประเทศนั่นเอง

.

แพลตฟอร์มต่อมาคือ SHEIN แพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมภายในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมียอดผู้ใช้งาน 88 ล้านคนจากทั่วโลก และเป็น app ที่มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 200 ล้านครั้ง เกือบจะเทียบเท่า shopee ที่มียอดดาวน์โหลด 215 ล้านครั้งในปี 2023

.

– Investment Disrupt

การเปิดธุรกิจในประเทศไทยเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับคนจีน เพราะกฎหมายกำหนดเพียงแค่มีเงินทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทก็สามารถจดทะเบียนเป็นบริษัทประกอบธุรกิจภายในประเทศไทยได้แล้ว คนจีนจำนวนมากจึงเลือกที่จะเลือกจดทะเบียนเป็นบริษัทเพื่อต่อยอดเป็นการยื่นขอ work permit และ non-immigrant visa ต่อไปในอนาคต

.

แต่กฎหมายก็ยังมีข้อกำหนดอีกข้อหนึ่งคือ กำหนดให้คนไทยต้องถือหุ้นของบริษัทไม่น้อยกว่า 51% เพื่อเป็นการการันตีว่าบริษัทที่จดทะเบียนนั้นจะมีคนไทยเข้าไปมีส่วนในการบริหารด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนจีนจ้างคนไทยด้วยจำนวนเงินมหาศาล อาทิ 80,000 บาทต่อเดือน เพื่อใช้ชื่อคนไทยถือหุ้น 51% ของบริษัทและคนจีนก็จะเข้าถือหุ้นใน 49% ที่เหลือ ทำให้ในความเป็นจริงแล้ว คนจีนได้ถือหุ้นบริษัทแบบ 100% นั่นเอง

.

– Job Disrupt

ทุกย่านการค้าสำคัญมีแต่คนจีน กลายเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงสำหรับประเทศไทย ซึ่งตอนนี้หลายพื้นที่การค้าที่สำคัญภายในกรุงเทพฯ เช่น สำเพ็ง เยาวราช ประตูน้ำ ล้วนแล้วแต่มีคนจีนเข้าไปค้าขาย และยังสามารถขายของตัดราคาร้านของคนไทยได้เพราะสามารถเข้าถึงสินค้าได้ด้วยตนเอง ทำให้ต้นทุนถูกลง 

แถมรัฐบาลจีนและไทยยังมีนโยบายในการสนับสนุนด้านการลดภาษีส่งออกและนำเข้าอีกด้วย

.

ปลายปีที่ผ่านมา ในจังหวัดภูเก็ต มีการตามจับกุมกลุ่มคนจีนที่เข้ามารับทำงานก่อสร้าง งานตกแต่งภายในโดยผิดกฎหมายกว่า 30 คน ซึ่งแรงงานเหล่านี้ได้รับการติดต่อจากนายทุนจีนด้วยกัน แถมยังได้รับค่าตอบแทนมากถึงวันละ 3,000 บาทอีกด้วย

.

– Education Disrupt

ปัจจุบันมหาลัยเอกชนในประเทศไทยมีจำนวนนักศึกษาจีนมากถึง 15,722 คน ตัวเลขพุ่งสูงมากขึ้นในทุก ๆ ปี คิดเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในหมู่นักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนในประเทศ ในนักศึกษาต่างชาติ 100 คน จะมีนักศึกษาจีนมากถึง 69 คนเลยทีเดียว สาเหตุที่มีจำนวนนักศึกษาจีนเข้ามาเยอะอาจเป็นหลายปัจจัยทั้งเรื่องวัฒนธรรมและค่าครองชีพ

.

นอกจากนี้คนจีนยังเข้าไปถือหุ้นภายในมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งตามกฎหมายไทยสถาบันศึกษาภายในประเทศนั้นถูกกำหนดให้นายกสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีสามารถเป็นชาวต่างชาติได้ แต่กรรมการสภามหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่า 50% จะต้องเป็นคนไทย

.

ตัวอย่างมหาวิทยาลัยเอกชนที่คนจีนเข้าไปถือหุ้น และข้อมูลสัดส่วนของชาวต่างชาติ

.

– มหาวิทยาลัยเกริก มีนายกสภาและอธิการบดีเป็นคนไทย มีกรรมการสภาที่เป็นชาวจีนประมาณ 17%

– มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด มีนายกสภาเป็นชาวจีน อธิการบดีเป็นคนไทย และมีกรรมการสภาเป็นชาวจีนประมาณ 40%

– มหาวิทยาลัยเมธารัตย์ มีนายกสภาและอธิการบดีเป็นชาวจีน และมีกรรมการสภาเป็นชาวจีนประมาณ 40% 

.

– Ownership Disrupt

หากสังเกตไปที่ย่านห้วยขวางจะเห็นได้ว่าตึกรามบ้านช่องแถวนั้นกลายเป็นร้านอาหารและธุรกิจของชาวจีนไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ จนหลายคนสถาปนาให้ละแวกนั้นกลายเป็น ถนนคนจีน เหมือนอย่างเยาวราชไปแล้ว 

.

สาเหตุที่ทำให้แถวนั้นกลายเป็นชุมชนคนจีนก็เพราะการกว้านซื้อตึกแถวในละแวกดังกล่าวของคนจีน และนำกลับมาปล่อยเช่าหรือขายในราคาที่สูงเกินกว่าคนไทยจะเอื้อมถึง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวจีนที่มีเงินหนากว่ามากเข้ามาจับจองพื้นที่ในละแวกนั้นนั่นเอง

.

เพียงแค่ 9 เดือนแรกในปี 2566 ก็มีชาวจีนเข้ามาซื้อห้องชุดในไทยไปแล้วถึง 4,991 ห้อง โดยคิดเป็นมูลค่ารวมมากถึง 24,740 ล้านบาท เลยทีเดียว และการเข้ามาของคนจีนในย่านการค้ายังทำให้ค่าเช่าที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 3-5 เท่าอีกด้วย

.

ที่มา: CNN, Statista, Business of App, Prachachat, Benar News, The Standard, Thai PBS, Kathryn Read

Popular Topics