Home ECONOVERSE เล่นฟุตบอลก็รักษ์โลกได้! FGR ทีมฟุตบอลที่ปั้นตัวเองให้ ‘ยั่งยืน’ ที่สุดในโลก

เล่นฟุตบอลก็รักษ์โลกได้! FGR ทีมฟุตบอลที่ปั้นตัวเองให้ ‘ยั่งยืน’ ที่สุดในโลก

0

‘Forest Green Rovers’ หรือ FGR ทีมฟุตบอลจาก EFL League One ของอังกฤษ แม้จะดูไม่คุ้นชื่อแฟนบอลชาวไทยเท่าไรนัก แต่เชื่อหรือไม่ว่า นี่คือหนึ่งในสโมสรที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘สโมสรที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก’ ด้วยสถิติการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2021 เพียง 73 ตันเท่านั้น

.

เยี่ยมชมเว็บไซต์ของสโมสรได้ที่ fgr.co.uk

#Agenda ชวนวิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ FGR เป็นทีมที่ยั่งยืนที่สุดในโลก

.

ประธานคนใหม่ กับวิสัยทัศน์สีเขียว

.

Dale Vince มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Ecotricity บริษัทจำหน่ายพลังงานพลังงานลมและแสงอาทิตย์ เข้ารับตำแหน่งประธานสโมสรในปี 2010 พร้อมแนวคิดที่จะเปลี่ยนสโมสรไปสู่ความยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานสะอาดสำหรับใช้ในสโมสร FGR

.

เริ่มจากปรับปรุงสนามกีฬา ‘The New Lawn’ ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์และกังหันลมรอบสนาม ใช้หญ้าออร์แกนิคที่สามารถกักเก็บน้ำเพื่อใช้งานหมุนเวียน ‘MowBot’ หุ่นยนต์ตัดหญ้าพลังงานแสงอาทิตย์

.

รวมไปถึงการเปลี่ยนไปใช้รถโค้ชไฟฟ้า และให้บริการสถานีชาร์จ EV ส่งผลให้ในปี 2021 FGR ปล่อยคาร์บอนไปเพียง 73.2 ตัน น้อยกว่าทีมฟุตบอลชื่อดังอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ปล่อยคาร์บอนไป 442 ตัน หรือคิดเป็น 6 เท่าเลยทีเดียว  

.

กินวีแกน สุขภาพดี นักกีฬาแข็งแรง

.

ปี 2015 FGR ได้ประกาศเปลี่ยนเมนูอาหารสำหรับนักกีฬาและแฟนบอลให้เป็นมังสวิรัติ หรือ วีแกน ทั้งหมด เพราะมีความสดใหม่ ให้พลังงานสูง ดีต่อสุขภาพ ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ที่สำคัญยังลดการกินเนื้อจากการทำปศุสัตว์ ที่สร้างคาร์บอนมากถึง 14% ในการปล่อยคาร์บอนของโลก

.

โดยเมนูในแต่ละวันของเหล่านักเตะล้วนเป็นเมนูมังสวิรัติทั้งสิ้น เช่น เบอร์เกอร์วีแกน ฟาฮิตามังสวิรัติ พิซซ่า สลัด มันเทศทอด พายวีแกน ที่ได้รางวัล British Pie Awards และรางวัล Menu of the Year จากนิตยสาร Sport and Leisure Catering ในขณะที่แฟนบอลที่เข้ามาชมการแข่งขันก็ได้ทานอาหารวีแกนไปด้วยในเวลาเดียวกัน

.

สร้างสนามแห่งใหม่ ผลิตเสื้อรักษ์โลก 

.

FGR ได้เตรียมสร้าง ‘Eco Park’ สนามกีฬาแห่งใหม่ซึ่งทำจากไม้ทั้งหมด และรองรับผู้ชมได้มากถึง 5,000 คน ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลกอย่าง Zaha Hadid ที่นอกจากจะดีไซน์ตัวอาคารให้ทันสมัยแล้ว ยังมีฟังก์ชันที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่

.

โดยสนามดังกล่าวจะใช้พลังงานหมุนเวียนจากลมและแสงอาทิตย์ถึง 80% ที่ผลิตโดยบริษัท Ecotricity ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเมื่อสนามดังกล่าวสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะสร้างรายได้ถึง 6.3 พันล้านบาท และรองรับตำแหน่งงานใหม่ถึง 5,000 ตำแหน่ง

.

อีกทั้งในปี 2021 FGR เปลี่ยนมาใช้ ‘กากกาแฟ’ และ ‘พลาสติกรีไซเคิล’ ผลิตเสื้อทีมฟุตบอล เพราะเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีน้ำหนักเบากว่า ส่วนขั้นตอนการผลิตเสื้อจะใช้กระบวนการออร์แกนิกที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด 

.

รางวัลการันตี ทีมที่ยั่งยืนที่สุดในโลก

.

FGR ได้รับรางวัลที่การันตีความยั่งยืนมากมาย โดยในปี 2015 FIFA รับรองให้ FGR เป็น ‘สโมสรฟุตบอลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก’ (World’s Greenest Football Club) ได้รับ Vegan Trademark จาก Vegan Society และปี 2018 องค์การสหประชาชาติรับรองให้เป็น ‘สโมสรฟุตบอลเป็นกลางคาร์บอนแห่งแรกของโลก’

.

นอกจากนี้ FGR มีสปอนเซอร์ด้านความยั่งยืนมากมาย เช่น Quorn แบรนด์อาหารมังสวิรัติชั้นนำของยุโรป Bolt แอปพลิเคชันเรียกรถโดยสาร PlayerLayer ผู้จำหน่ายชุดกีฬาที่ผลิตจากธรรมชาติ และ Faith in Nature ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวกายที่ทำจากมังสวิรัติ เป็นต้น

ผลจากการผลักดันความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2022 FGR คว้าแชมป์ EFL League Two และเลื่อนชั้นสู่ EFL League One ได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Dale Vince จากการสร้างความยั่งยืนให้ FGR ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา โดย FGR มีเป้าหมายที่จะลดการสร้างคาร์บอนให้ได้อย่างน้อย 50% ภายในปี 2030 ต่อไป

.

สังเกตเห็นได้ว่าวงการกีฬาได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืนมากขึ้น อีกทั้งสโมสรฟุตบอลใหญ่ๆ ทั่วโลก ก็เริ่มมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากแฟนบอลจะได้เชียร์ทีมรักแล้ว ยังเป็นการซึมซับแนวคิดเรื่องความยั่งยืนไปด้วยในเวลาเดียวกันนั่นเอง 

.

Sources : Forest Green Rovers, BBC, Eco Park, United Nations Climate Change, The Sustain, GQ Thailand, Urban Creature, The Cloud

Exit mobile version