ช่วงเวลาที่เราได้เรียนรู้มากที่สุดไม่ใช่ตอนที่เราประสบความสำเร็จ แต่เป็นตอนที่เราก้าวผ่านความล้มเหลวมองย้อนไปดูตอนเราเจอปัญหา เทียบกับตอนนี้ เรามีการเปลี่ยนแปลงตรงไหนบ้าง? #AGENDA อยากชวนทุกคนมาเปลี่ยนความล้มเหลวเป็นบทเรียนผ่าน 6 วิธีนี้
1) ยอมรับความล้มเหลว ว่าเป็นประสบการณ์
[Mindset about Failure]
ความล้มเหลวคือกระบวนการเรียนรู้ และคิดสร้างสรรค์อย่างนึง
อาจดูเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับ เราเสียใจได้ แต่เราต้องทำความเข้าใจว่ามัน
เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าใครก็เคยทำผิดพลาด เคยล้มเหลวกันมาก่อน
ความล้มเหลวต่างหากที่สอนให้เราเก่งขึ้นและกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้
อย่างที่ J.K. Rowling พูดไว้ว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ล้มเหลวในบางสิ่ง เว้นแต่คุณจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังจนเหมือนไม่ได้ใช้ชีวิตเลย และนั่นก็ทำให้คุณล้มเหลวในการใช้ชีวิต
2) มองให้เห็นว่าเรากำลังล้มเหลว
[Detecting Failure]
ในปี 2003 มีเรื่องราวใหญ่โตเรื่องนึงของวงการอวกาศ
นั่นก้คือเกิดการระเบิดของยานอวกาศโคลอมเบีย (Columbia space shuttle)
โดยมีสาเหตุมาจากผู้นำมองข้ามคำเตือนของวิศวกรเรื่องชิ้นส่วนโฟมทางด้านซ้ายของยานเกิดความเสียหายตอนปล่อยยาน ทั้งที่มีทั้งเวลาและวิธีแก้ไข แต่ผู้นำมองไม่เห็นถึงความสำคัญของปัญหา มันจึงไม่ได้รับการแก้ไขและนำไปสู่โศกนาฎกรรมในที่สุด
สื่อถึง การที่เรามองไม่เห็นปัญหาหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเผชิญกับความล้มเหลวที่ซ่อนอยู่ (Hidden Failure)
จึงทำสิ่งเดิมๆต่อไปจนปัญหามันรุนแรงขึ้น
เราควรรับฟังหรือให้คนอื่นช่วยค้นหาข้อผิดพลาด ถ้าเรารู้ตัวได้เร็ว เราจะหาทางใหม่ได้ไวขึ้น
3) วิเคราะห์ความล้มเหลว ว่าเกิดจากอะไร?
[Analyzing Failure]
สาเหตุของความล้มเหลวมีหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น
ล้มเหลวจากการละเลย เช่น ทำงานผิดพลาด
ล้มเหลวจากความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ อย่างในสนามรบ
ล้มเหลวเพื่อการทดลอง ให้ได้องค์ความรู้ใหม่ เช่น การพัฒนาวัคซีน COVID-19
ลองวิเคราะห์ดูว่าที่มาของความล้มเหลวของเราคืออะไร
การรู้ระดับความล้มเหลวตัวเอง จะทำให้เราแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น
4) ตั้งเป้าหมายของการปรับปรุง
[Experimentation]
เชื่อไหมว่า เครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงที่ประสบความสำเร็จของเจมส์ ไดสันเป็นต้นแบบชิ้นที่ 5,127 หลังจากที่ 5,126 ชิ้นก่อนล้มเหลว เขาคือหนึ่งในคนที่ไม่ละความพยายามในการทดลอง
เมื่อพลาดไป ก็ต้องเริ่มใหม่ ตั้งเป้าหมาย
ออกแบบกระบวนการ เหมือนทำการทดลองไปเรื่อยๆ
ยิ่งทดลอง เรายิ่งเข้าใกล้ผลลัพธ์มากขึ้น
5) สร้าง Failure Checklist
[Evaluation]
การสร้างเช็คลิสต์บันทึกสิ่งที่เราได้จากความล้มเหลว
จะช่วยประเมินตัวเรา วัดผลสิ่งที่เราทำ
จดบันทึกไว้ดีกว่าปล่อยผ่านความล้มเหลวไปเฉยๆ
เพราะจะช่วยเตือนไม่ให้เราทำซ้ำอีก
6) สร้างวัฒนธรรมองค์กร พร้อมที่จะล้มเหลว
[Creating learning culture]
ประสบการณ์เป็นสิ่งที่แชร์กันได้ ไม่ว่าจะในกลุ่มเพื่อนหรือระดับองค์กร
ทำไมไม่หาโอกาสสร้างเวทีที่พร้อมจะพูดถึงความล้มเหลว
แบ่งปันเรื่องราวของกันและกัน
ช่วยกันต่อยอดประสบการณ์ให้กลายเป็นประโยชน์ในอนาคต
ที่มา Harvard Business Review