Home BIZVERSE คาดเดา! อนาคตแอปนกฟ้า เมื่อ Elon Musk ควบ Twitter

คาดเดา! อนาคตแอปนกฟ้า เมื่อ Elon Musk ควบ Twitter

0

จบดีลซื้อ Twitter อย่างเป็นทางการ หลังเจอเรื่องดีลล่ม ขึ้นโรงขึ้นศาล ท้ายที่สุด ‘แอปนกฟ้า’ ก็ตกไปอยู่ในการดูแลของ Elon Musk ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 1.7 ล้านล้านบาท

Elon Musk เปิดตัวอย่างเอาอ่ะจารย์! ด้วยการเดินถืออ่างล่างมือเข้าบริษัทวันแรก นักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เขาต้องการเข้ามาทำให้องค์กรทวิตเตอร์สะอาดและล้างสิ่งที่ไม่สมควรมีออกไป พร้อมปลดบอร์ดบริหารเดิม Parag Agrawal ตำแหน่งซีอีโอ, Ned Segal ตำแหน่งซีเอฟโอ, Vijaya Gadde ตำแหน่งดูแลนโยบาย, Sean Edgett ที่ปรึกษาทั่วไป, Sarah Personette ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าออกทันที ทำผู้ถือหุ้น พนักงาน ผู้ใช้งาน หรือแม้แต่รัฐบาลเริ่มหวั่นใจว่าทวิตเตอร์ในกำมือของมัสก์จะเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ทุกฝ่ายมองว่าควรจะเป็นหรือไม่

แนวโน้มของนักวิเคราะห์ต่อการเปลี่ยนแปลงของ Twitter หลังเปลี่ยนเจ้าของเป็น Elon Musk คาดการณ์ไว้หลายประเด็น ปัจจุบัน ชุมชนทวิตเตอร์คาดว่ามีผู้ใช้ง่ายอยู่ราว ๆ 200 ล้านบัญชีทั่วโลก ซึ่งถือเป็นหนึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีมูลค่าธุรกิจมหาศาล การเปลี่ยนแปลงของ Elon Musk แต่ละอย่างจึงอาจสะเทือนไปทั้งโลก และคาดว่าจะมีผลกระทบไปทั้งแวดวงเทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย เศรษฐกิจ หรือแม้แต่การเมือง

🔵 ปุ่ม Edit ที่รอคอย 🔵
มัสก์ อาจจะสานต่อให้ Twitter มีปุ่ม Edit หรือผู้ใช้งานสามารถแก้ไขข้อความที่ทวิตไปแล้วได้ ซึ่งเรื่องนี้เขาเคยทั้งโพลบน Twitter ของเขาเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2022 ที่ผ่านมา จนได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ติดตาม อาจเรียกว่าเป็นสัญญาณแรก ๆ ที่เราได้เห็นว่ามัสก์กำลังจะทำบางสิ่งกับแพลตฟอร์มนกฟ้า

ปุ่ม Edit เป็นที่ถกเถียงมายาวนาน โดย Jack Dorsey หนึ่งในผู้ก่อตั้งเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่อยากให้เกิดขึ้นเพื่อคงเอกลักษณ์ของแพลตฟอร์มและเสน่ห์การใช้งานที่เหมือนกับ SMS ทว่าล่าสุด มีข่าวว่า Twitter กำลังทดลองระบบแก้ไขข้อความแล้วบางประเทศโดยยังจำกัดในกลุ่มผู้ใช้งาน Twitter Blue

🔵 ขึ้นราคา Twitter Blue 🔵
การหารายได้ขององค์กรจะเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นคือการขึ้นราคาแบบหูฉี่ของ Twitter Blue จาก 4.99$ เป็น 19.99$ หรือกว่า 4 เท่า โดย Twitter Blue เป็นระบบสมาชิกที่ผู้ใช้จะมีสัญลักษณ์ยืนยันตัวตน ทดลองฟังก์ชั่นพิเศษก่อนผู้ใช้งานทั่วไป แต่การขึ้นราคาก้าวกระโดดแบบนี้คงทำให้หลายคงคิดหนัก ถึงขั้นมีกระแสคนดังในฝั่งอเมริกา เช่น วิลเลียม แชตเนอร์ (William Shatner), สตีเฟน คิง (Stephen King) ประกาศว่าจะเลิกใช้ Twitter Blue หากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมขึ้นมาจริง ๆ หรือแพงจนเกินไป

ล่าสุด ข้อเสนอขึ้นราคาบริการ Twitter Blue น่าจะจบที่ 8$ (ราว ๆ 300 บาท) ต่อเดือน พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น โฆษณาน้อยลง และการจัดลำดับความสำคัญในการตอบกลับ สัญลักษณ์ Verified Account ติ้กถูกสีฟ้า มัสก์ เผยว่าการขึ้นราคาเป็นการจัดการระบบรายได้ใหม่ เน้นเก็บจากผู้ใช้งาน ลดการพึ่งพารายได้โฆษณา และรับมือการถูกเพิกถอนของจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่มองว่าเป็นการผูกขาดอำนาจบริหารไว้ที่มัสก์คนเดียว คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 8 พ.ย. 2022

🔵 ยกเลิกแบนเนื้อหา โอกาส Toxic Content 🔵
มัสก์มีอุดมการณ์ความเชื่อเรื่อง Free Speech อย่างรุนแรง จากข้อความบน Twitter ที่เคยทวิต “เขาหวังว่า แม้แต่ความคิดเห็นที่แย่ที่สุดของเขา จะต้องอยู่ได้บนทวิตเตอร์ เพราะนี่คือสิ่งที่ Free Speech เป็น” คาดว่า Twitter จะเริ่มยกเลิกการแบนเนื้อหาต่าง ๆ มีกระบวนการเซนเซอร์น้อยลง
.
เรื่องนี้เป็นความกังวลระดับชาติ หลังจากที่มัสก์ได้ปลดแบนอดีตประธานาธิบดี Trump และเพื่อนของเขาอย่าง Kanye West หลายฝ่ายมองว่า Twitter ที่ Free Speech สุดโต่งจะเปิดโอกาสให้ Toxic Content เช่น Hate Speech, Cyber Bullying, Fake News กลับมา เสี่ยงเป็นอันตรายต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาธิปไตยที่เชื่อมั่นในการแสดงความเห็นบนพื้นฐานความรับผิดชอบ ผลกระทบต่อแอคเคาท์ลูกค้าลงโฆษณา และผู้ใช้งานที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ

🔵 กำจัดบอท/แอคหลุมให้สิ้นซาก 🔵
ประเด็นบอทเป็นสาเหตุของการฟ้องร้องขึ้นศาลที่ทาง Twitter ยืนยันว่ามีเพียง 5% ของบัญชีทั้งหมด แต่มัสก์เชื่อว่าอาจมีมากถึง 20% จนทำให้ดีลซื้อทวิตเตอร์ต้องล่าช้าไป หลัง Takeover มัสก์สัญญาว่าจะกวาดล้างบรรดาแอคบอทหรือแอคหลุมที่ไร้ตัวตนที่มักโพสต์สแปม เนื้อหาเชิงสแกมเมอร์ หรือเนื้อหาไม่น่าเชื่อถือ เพื่อลดอาชญากรรมทางไซเบอร์ ทำให้ Twitter มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากขึ้น

🔵 พัฒนาเป็น Super App ชื่อ ‘X’ 🔵
ยิ่งกว่าแอปโซเชียลมีเดียล มัสก์เล็งว่าจะพัฒนา Twitter ให้เป็น “Superapp” คล้าย ๆ WeChat ของจีน ที่ผู้ใช้งานทำได้หลายอย่างทั้งเล่นโซเซียล สั่งอาหาร ช็อปปิ้ง ซื้อสินค้า เรียกรถ ธุรกรรม ฯลฯ โดยจะใช้ชื่อว่า ‘X’ หรือ X.com แผนนี้มัสก์เคยเปรยไว้ในอีเวนท์ถาม-ตอบกับพนักงานในเดือนมิถุนายน หากทำได้จริง Twitter จะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแค่การลงโฆษณาเป็นหลัก ดึงดูดการสมัครสมาชิกเพื่อฟังก์ชั่นที่ดีและครอบคลุมกว่า

🔵 Lay off พนักงาน เลิก WFH 🔵
ประเดิมไปแล้วกับการปลดบอร์ดบริหาร ล่าสุดมีข่าวลือว่ามัสก์อาจจะปลดพนักงานของ Twitter ประมาณ 2,000 คน (1 ใน 4 ของที่มีอยู่) ซึ่งก็ทำให้พนักงานมีร้อน ๆ หนาว ๆ นักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้สูง รวมถึงคาดว่าจะมีการเรียกพนักงานให้กลับเข้ามาออฟฟิศแทนการ WFH หรือ Work From Anywhere ซึ่งเป็นหนึ่งแนวคิดที่มัสก์ใช้กับทั้ง Tesla และ SpaceX โดยต้องเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศอย่างน้อย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงจะสามารถที่จะขอทำงานจากระยะไกล (Remote Work) ได้ หลายอย่างในตัวของมัสก์ก็เริ่มทำให้พนักงานไม่น้อยไม่พอใจและเริ่มวางแผนที่จะลาออกมากขึ้น

ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาจากนักวิเคราะห์บางอย่างเกิดขึ้นแล้ว บางอย่างเป็นเพียงข่าวลือ บางอย่างดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ในขณะที่อีกไม่น้อยที่มาพร้อมความกังวล อนาคต Twitter ในกำมือ Elon Musk จะทำให้ชาวทวิตเตี้ยน/ทวิภพ พึงพอใจได้แค่ไหน ? คงต้องติดตามกันต่อไป

Source : BBC, VOX, Protocol, Forbes, NYTimes, WorkpointToday, The Standard, The Matter

Exit mobile version