รวม ‘Soft Power’ แต่ละประเทศ ทำให้คนรักได้แบบไม่ต้องบังคับ

Highlight

ถ้าจู่ๆ มีคนมาบอกว่า ‘นี่ รักฉันสิ’ เราก็คงสวนกลับทันทีว่าทำไมต้องรัก?

แต่ถ้าคนๆ นั้น ชี้ปลายกระบอกปืนมาที่เราด้วย เราก็อาจจะต้องยอมตอบว่ารัก แต่ในใจรู้ว่าถูกบังคับ

วิธีการบีบบังคับแบบนี้ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับแน่นอนในสังคมและระดับสากลโลก

แต่ถ้าเรามีเครื่องมือที่ช่วยให้คนมีความรัก ความชอบ ยอมเปย์เรา โดยที่ไม่ได้ใช้กำลังหรืออำนาจบีบบังคับล่ะ? 

ศาสตราจารย์ Joseph Nye แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเครื่องมือนี้โดยเรียกว่า Soft Power หรือพลังละมุน 

Soft Power คืออะไร?

สำหรับประเทศหนึ่ง ๆ พลังแบบซอฟต์ ๆ นี้ ก็คือวัฒนธรรม สังคม ค่านิยม นโยบายต่าง ๆ ทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศ

อย่างในงานเปิดโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ก็มีการนำเอา Soft Power หรือเราเรียกกันว่า ‘ความญี่ปุ่น’ มานำเสนอในหลาย ๆ จุดได้อย่างน่าประทับใจ เช่น โชว์ Pictogram ที่ทั้งดูเพลินและลุ้นว่าจะพลาดไหม การใช้เพลงประกอบจากการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง อุปกรณ์ที่ใช้ในงานออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทั้งหมด เป็นต้น

จากการจัดอันดับโดย brandfinance.com ประเทศที่มีการใช้ Soft Power มากที่สุดในปี 2021 ได้แก่ อันดับ 1 เยอรมัน อันดับ 2 ญี่ปุ่น อันดับ 3 อังกฤษ สังเกตได้ว่า สหรัฐอเมริกาที่มักจะมีการใช้ Soft Power อยู่อันดับต้น ๆ นั้นตกไปอยู่อันดับที่ 6 เนื่องจากนโยบาย American First ของอดีตประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์

ส่วนประเทศไทย อยู่อันดับที่ 33 ลดลงมา 1 อันดับจากปีก่อน

ที่น่าสนใจก็คือ Soft Power บางอย่าง สามารถนำมาผลักดัน ปลุกปั้น ส่งเสริม จนสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วย

มาดูกันว่าแต่ละประเทศมี Soft Power อะไรบ้าง และสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้มากแค่ไหน?

Popular Topics