รู้จักวันโสด กาปฏิทินวันของคนไม่มีคู่แต่ละประเทศ

ปฏิทินมีแต่วันแห่งความรักของคนมีคู่อย่าง “เธอกับเขา”
แล้ววันของคนโสดอย่างเรามีวันไหนบ้าง! 🤔
.
สัดส่วน “คนโสด” กำลังเพิ่มขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก
ซึ่งถือเป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างประชากรขนานใหญ่
.
ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นมีสัดส่วนคนโสดเพิ่มกว่าร้อยละ 40
สหรัฐอเมริกา เกาหลี และไทยคิดเป็นร้อยละ 30
. 

แนวโน้มตัวเลขแต่งงานในสิงคโปร์ตัวเลขบ่งบอกว่า “คนแต่งงานและมีลูกช้าลง” ผู้ชายที่แต่งงานก่อนอายุ 30 ปีมีเพียง 10 % ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 18 % สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยอายุของคนที่แต่งงานในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งชายและหญิงในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
.
อย่างไรก็ดี คนโสดก็ใช่ว่าจะไม่ถูกเหลียวแล มีความพยายามกำหนดวันต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างพื้นที่ให้คนที่ยังไม่มีคู่ สามารถออกมาเฉลิมฉลอง “ความโสด” ได้อย่างไม่ต้องเขินอาย
.
#AENDA พาเปิดปฏิทิน 📅 มาดูกันว่า “วันของคนโสด” ของแต่ละประเทศอยู่วันที่เท่าไร?

☑ 15 กุมภาพันธ์
วันตระหนักถึงคนโสด (Singles Awareness Day: SAD)
.
สังเกตว่าเป็นวันที่ถัดจากวันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์) สื่อความหมายว่าเมื่อผ่านพ้นวันแห่งความรักที่คนมีคู่เฉลิมฉลอง มอบความรักแก่กันแล้ว วันนี้จะเป็นวันที่ประกาศให้รู้ว่ายังมีคนโสดอยู่นะ คนโสดก็มีความสำคัญ ขอพื้นที่ให้คนโสดได้ฉลองกันบ้าง

—

☑ 11 มีนาคม 

วันคนโสดแห่งชาติ (National Singles Day: NAD)
เป็นที่นิยมในสหราชอาณาจักร 🇬🇧
.
วันนี้ถูกกำหนดขึ้นใหม่แทนที่ 15 กุมภาพันธ์ เพราะไม่ค่อยได้รับความนิยม และตัวอักษรย่อของวันเป็นคำว่า “SAD” แปลว่า “เศร้า” เป็นความหมายที่ไม่ค่อยมงคลสักเท่าไร ถึงจะเป็นโสด ก็ไม่จำเป็นต้องเศร้า
.
สังเกตว่ามีเจตนาเลือกวันที่ 11 เนื่องจากเลข 1 หมายถึงการอยู่คนเดียว ยังไม่มีคู่ เลข 1 สองตัว จึงมีนัยยะของการที่คนโสดอยู่ร่วมกับคนโสด โสดแต่ไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย

—

☑ 14 เมษายน

วันดำ (Black Day) 

เป็นที่นิยมในเกาหลี 🇰🇷

.
ความสำคัญของวันนี้เชื่อมโยงไปถึงวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคม ตามธรรมเนียมในเกาหลี
.
– 14 กุมภาพันธ์ ฝ่ายหญิงซื้อของให้ฝ่ายชาย (ฝ่ายชายจะใช้เช็คเรทติ้งความป็อปปูล่า) นิยมเป็นของขวัญที่มีสีดำ เช่น ช็อคโกแลต จึงได้ชื่อว่า “วันดำ (Black Day)” 

– 14 มีนาคม ฝ่ายชายซื้อของคืนให้ฝ่ายหญิงบ้าง แต่มักเป็นของสีขาว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ หรือไวท์ช็อคโกแลต จึงได้ชื่อว่า “วันขาว (White Day)”
.

14 เมษายน ถึงคราวของคนโสดได้เฉลิมฉลองบ้าง โดยไม่ต้องให้หรือรอรับจากใคร คนโสดจะพากันใส่ชุดสีดำ ออกมากินอาหารสีดำ เช่น กาแฟดำ บะหมี่ราดซอสดำ หรือที่รู้จักกันว่า “จาจังมยอน (자장면)” จึงได้ชื่อว่าวันดำของคนโสดนั่นเอง

—

☑ 22 กันยายน 

วันคนโสดแห่งชาติ (National Singles Day) 

เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา 🇺🇸

.
สันนิษฐานว่าเริ่มต้นมาจากสมาคมคนโสดในมลรัฐโอไฮโอ ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 จนพัฒนามาเป็นเป็น “สัปดาห์คนโสดและคนไม่แต่งงาน” คือ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายนของทุกปี
.
แต่ 22 กันยายน ตรงกับวันหยุดเป็นส่วนใหญ่ จึงนิยมเฉลิมฉลองกับในวันสุดสัปดาห์ และมักเป็นโอกาสที่สำนักมโนประชากรของสหรัฐฯ เผยแพร่สถิติและตัวเลขที่บ่งบอกความสำคัญของคนโสดแก่สาธารณะอีกด้วย

—

☑ 11 พฤศจิกายน 

วันของคนโสด (Single’s day) 

เป็นที่นิยมในจีน 🇨🇳

.เริ่มต้นฉลองกันในจีนมาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เชื่อว่าริเริ่มโดยกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยหนานจิง
.
เลข 1 มีลักษณะคล้ายตะเกียบซึ่งพ้องความหมายกับคำว่า “คนโสด” อีกทั้งวันที่ 11 เดือน 11 เป็นวันรวมกันของเลข 1 สื่อความหมายว่า “โดดเดี่ยวแต่ไม่เดียวดาย”
.
สิ่งที่น่าสนใจ คือ วันที่ 11.11 ถือเป็นวันคนโสดมักออกมาซื้อของขวัญให้ตนเอง จนถือเป็นวัน Shopping’s Day กระตุ้นให้ธุรกิจมียอดขายสูงขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

—

แม้ว่าไร้คู่ คนโสดก็สามารถมีความรักที่ดีแก่กันได้ และ
การเฉลิมฉลองความรักของคนโสดที่ดีที่สุด คือ การรักตัวเองให้มาก ๆ นั่นเอง
ส่วนใครที่ต้องการหนีจากความโสด ขอให้พบเจอความรักที่ดีในเร็ววันนะ 💕

ที่มา : Mthai, Zipeventapp, Springnews, Salaryinvestor, ไทยรัฐออนไลน์