Home Social ขาดเรียน/ตัดมดลูก’ เมื่อความจนทำให้ผู้หญิงเสียโอกาส ส่องนโยบายลดภาระค่าผ้าอนามัย

ขาดเรียน/ตัดมดลูก’ เมื่อความจนทำให้ผู้หญิงเสียโอกาส ส่องนโยบายลดภาระค่าผ้าอนามัย

แต่ ‘ผ้าอนามัย’ ของใช้จำเป็นของผู้หญิง กลับถูกบรรจุเป็นเครื่องสำอางค์ หรือสินค้าฟุ่มเฟือยในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก

0

‘ประจำเดือน’ คือสิ่งที่ธรรมชาติทำให้เกิดมากับผู้หญิงทุกคน

แต่ ‘ผ้าอนามัย’ ของใช้จำเป็นของผู้หญิง กลับถูกบรรจุเป็นเครื่องสำอางค์ หรือสินค้าฟุ่มเฟือยในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก

ทำให้การเข้าถึงผ้าอนามัย กลายเป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิง เพราะการต้นทุนค่าผ้าอนามัยในแต่ละเดือนสูงเกินกำลังของครอบครัว

ข้อมูลทที่น่าตกใจก็คือ มีสัดส่วนเด็ก/ผู้หญิงมากกว่าที่คิด เลือกที่จะ ‘ขาดเรียน’ หรือ ‘ตัดมดลูก’ เพราะพวกเธอไม่สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้ หรือการมีประจำเดือนทำให้ต้องลางานและนายจ้างก็ไม่ยกเว้นการตัดค่าแรง

เป็นเรื่องดีที่โลกสมัยใหม่ เริ่มมีการ call out ให้กับปัญหานี้ของผู้หญิง และหลายประเทศได้ออกนโยบายมาบรรเทาเรื่องนี้มากขึ้น  #AGENDA ชวนส่องปัญหาเรื่องนี้และนโยบายลดภาระค่าผ้าอนามัยจากรัฐบาลกันค่ะ

#FreePeriods #ภาษีผ้าอนามัย

——-

นิวซีแลนด์:

ฟรีผ้าอนามัยทุกโรงเรียน หลังพบเด็กสาวต้องขาดเรียนทุกเดือนเพราะยากจน

หลังจากที่รัฐบาลค้นพบว่าเด็ก 1 คนในทุกๆ 12 คนจากทั่วประเทศต้องหยุดเรียนเพราะมีประจำเดือน และฐานนะทางบ้านทำให้ไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยได้ไหว

รัฐจึงทำโครงการนำร่อง ทดลองแจกผ้าอนามัยฟรีใน 15 โรงเรียน และในที่สุดโครงการนี้ก็ผ่านฉลุย และปรับมาใช้เต็มตัว คือขยายเป็นแจกฟรีทุกโรงเรียนทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณ​ 540 ล้านบาท ใน 3 ปี

——-

สกอตแลนด์:

ประเทศแรกในโลกที่ผ่านกฎหมายให้แจกผ้าอนามัยฟรีให้กับประชาชน

ข้อมูลจากโซนยุโรปได้เปิดเผยว่า ผู้หญิง 25% ไม่สามารถไปทำงานหรือไปโรงเรียนได้ เพราะขาดกำลังซื้อผ้าอนามัยเมื่อเป็นประจำเดือน 

สกอตแลนด์จึงถือได้ว่าเป็นประเทศแรกในโลก ที่ออกนโยบายผ้าอนามัยฟรี โดยประชาชนสามารถรับผ้าอนามัยฟรีได้ที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย ร้านขายยา ศูนย์เยาวชน ฯลฯ

นโยบายนี้ใช้งบประมาณ​ราว ๆ 400 ล้านบาทต่อปี

——-

สหราชอาณาจักร:

เด็กหลายคนต้องขาดเรียนเพราะไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยได้ และมีเด็กกว่าที่ถูกล้อเลียนหากเอ่ยปากเรื่องนี้ หรือมีประจำเดือนเลอะ

ที่น่าเศร้าก็คือบางคนต้องใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ ผ้าเช็ดหน้า หรือถุงเท้าเก่าแทนการใช้ผ้าอนามัย ซึ่งเสี่ยงเลอะเทอะและไม่ดีต่อสุขอนามัยเป็นอย่างมาก เด็ก ๆ จึงเลือกที่จะหยุดเรียนไปเลย

สหราชอาณาจักรจึงประกาศยกเลิกภาษีผ้าอนามัย (จากเดิม 5%) ทั้งแบบแผ่น และแบบสอด เพื่อลดภาระค่าผ้าอนามัยลง

——-

อินเดีย:

ตัดมดลูก ลดภาระจากประจำเดือน

เด็กและผู้หญิงในอินเดียจำนวนมาก เข้าไม่ถึงสินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัยของผู้หญิง โดยเฉพาะผ้าอนามัยที่ต้องใช้ทุก ๆ เดือน หลายพื้นที่ในชนบท ใช้ใบไม้ ขี้เถ้า หรือแม้แต่ขี้เลื่อยแทนผ้าอนามัย ทำให้เด็ก ๆ ไม่ไปเรียนเนื่องจากความไม่สะดวกจากการไม่มีผ้าอนามัยใช้

แต่หญิงสาววัยทำงานนั้นเจอสิ่งที่แย่ยิ่งกว่า โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดการศึกษา เพราะที่ผ่านมามีรายงานระบุว่าผู้หญิงอินเดียหลายพันคน เข้ารับการตัดมดลูกเพื่อให้ได้ทำงานเป็นคนตัดอ้อย

หญิงสาวเลือกตัดมดลูกทิ้ง เพราะนายจ้างไม่อยากจ้างผู้หญิงที่ต้องลางานเมื่อมีประจำเดือน ประกอบกับความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัย ถ้าพวกเธอเจ็บป่วย หมอก็จะแนะนำให้ตัดมดลูกเพื่อลดภาระ แม้จะต้องเจอกับผลข้างเคียงที่ตามมาหลังตัดมดลูกก็ตาม

แม้จะมีรายงานว่าทัศนคติทางลบของสังคมอินเดียต่อประจำเดือนยังมีอยู่ แต่รัฐบาลก็ยินยอมประกาศยกเลิกภาษีผ้าอนามัย (เดิม 12%) เพื่อให้คนจนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ในปี 2018 ก็มีส.ส.หญิงเสนอร่างกฎหมาย “สวัสดิการผู้มีประจำเดือน” ในสภาด้วย แต่ยังไม่สัมฤทธิ์ผล

——-

นอกจากประเทศเหล่านี้ก็มีสหรัฐ (บางรัฐ),​ ไอร์แลนด์, มาเลเซีย,​ เลบานอน, จาไมก้า, ไนคารากัว, ไนจีเรีย และแทนซาเนีย ที่ยกเลิกการเก็บภาษีผ้าอนามัยแล้ว

——-

ไทย:

เป็นสินค้าควบคุม แต่ยังเก็บภาษี

ราคาผ้าอนามัย/ค่าครองชีพของไทยยังสูงอยู่ ถ้าดูค่าผ้าอนามัยต่อ 1 ห่อเล็ก ราคาเท่า ๆ หรือแพงกว่าข้าว 1 จานโดยทั่วๆ ไป ซึ่งตามหลักสุขอนามัย จะต้องเปลี่ยนถึงอย่างน้อย 3-5 ชิ้นต่อวัน ไม่นับที่ว่าจะต้องใช้หลาย ๆ แบบ สำหรับกลางวันและกลางคืน

ราคาผ้าอนามัยที่ค่อนข้างแพงนี้ ทำให้ปัญหาขาดแคลน/เข้าไม่ถึงในกลุ่มคนรายได้น้อย ลามไปถึงพื้นที่ในอย่างในเรือนจำ ที่เคยมีการรณรงค์ขอบริจาคผ้าอนามัยสำหรับผู้ต้องขังด้วย

ถึงแม้ว่าผ้าอนามัยในไทย ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าควบคุมมาตั้งแต่ปี 2551 และการจะขอเปลี่ยนแปลงราคาต้องขออนุญาต และชี้แจงต้นทุนกับภาครัฐก่อน

แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ผ้าอนามัยที่เป็นของใช้จำเป็น โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มรายได้น้อยแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ทที่รัฐจะช่วยลดภาระภาษีตรงนี้เสียที 

ที่มา:

– 

https://edition.cnn.com/2018/07/22/health/india-tampon-tax-intl/index.html

https://thestandard.co/scotland-free-tampon-sanitary/

https://www.bbc.com/news/world-asia-56107816

https://www.freeperiods.org/

https://www.bbc.com/thai/resources/idt-sh/period_poverty_thai

https://brandinside.asia/uk-cancel-sanitary-napkin-product-vat/

https://www.bbc.com/thai/international-48900229

– https://www.bbc.com/thai/thailand-50819072

Exit mobile version