Home Social ฟินแลนด์ให้ความสำคัญกับ ‘ห้องสมุด’ มากแค่ไหน?

ฟินแลนด์ให้ความสำคัญกับ ‘ห้องสมุด’ มากแค่ไหน?

ฟินแลนด์ไม่ได้เป็นแค่ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่ยังมีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก และมี ‘วัฒนธรรมการอ่าน’ ที่หยั่งรากลึกในสังคม มาดูกันว่าฟินแลนด์ให้ความสำคัญกับ ‘ห้องสมุด’ มากแค่ไหน?

8

ฟินแลนด์ให้ความสำคัญกับ ‘ห้องสมุด’ มากแค่ไหน?

ฟินแลนด์ไม่ได้เป็นแค่ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก
แต่ยังมีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก
ผลการเรียนของเด็กสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆในกลุ่ม OECD
ประชาชนสามารถอ่านออกเขียนได้ทุกคน
นอกจากหลักสูตรการศึกษาที่ออกแบบมามีประสิทธิภาพสูง
ส่วนหนึ่งยังเป็นเพราะ ‘วัฒนธรรมการอ่าน’ ที่หยั่งรากลึกในสังคม
ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟินแลนด์บ่มเพาะมาถึง 100 ปี
และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัฒนา

หนึ่งในสิ่งที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา
และเป็นตัวผลักดันนิสัยรักการอ่านของชาวฟินแลนด์
คือสิ่งที่ประเทศไทยให้ค่าเป็นแค่สถานที่เก็บหนังสือ
มันคือ ‘ห้องสมุด’ ที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งในฟินแลนด์

ในโอกาสครบรอบ 100 ปีฟินแลนด์ประกาศอิสรภาพ
รัฐบาลมอบ ‘ห้องสมุดโอดิ’ หรือห้องสมุดกลางเฮลซิงกิเป็น‘ของขวัญ’ให้ประชาชน
ห้องสมุดที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลมูลค่า 98 ล้านยูโร
หรือเกือบ 3 พันล้านบาท บนพื้นที่ตรงข้ามรัฐสภา
ชนิดที่ว่า “เมื่อยืนอยู่บนระเบียงของห้องสมุด
จะสามารถมองเห็นรัฐสภาอยู่ในระดับเดียวกัน”
กล่าวโดย Nasima Razmya รองนายกเทศมนตรีด้านวัฒนธรรมของเฮลซิงกิ
ที่มีครอบครัวเป็นผู้ลี้ภัยจากอัฟกานิสถาน

ห้องสมุดของฟินแลนด์พัฒนาไปได้ไกลขนาดไหน
#AGENDA สรุปมาให้อ่านกันครับ

…………………………

มีกฎหมาย ‘ห้องสมุด’

ฟินแลนด์มี พ.ร.บ.ห้องสมุดสาธารณะตั้งแต่ทศวรรษที่ 20
มีใจความคือ ห้องสมุดต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้

เป็นสวัสดิการสาธารณะที่รัฐบาลทุ่มทุนสร้าง
เป็นงบประมาณปีละ 320 ล้านยูโร (12,000 ล้านบาท)
และแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ไม่มีการตัดงบส่วนนี้
มีแต่จะเพิ่ม เช่นเดียวกับงบทางการศึกษา

กฎหมายยังกำหนดให้ 1 เทศบาล
ต้องมีห้องสมุดอย่างน้อย 1 แห่ง
และต้องมีคุณภาพ

…………………………

เข้าฟรี ทุกที่ทั่วประเทศ

ฟินแลนด์จัดสรรห้องสมุดไว้ 853 แห่งทั่วประเทศ
ทุกที่เข้าใช้ได้ฟรีตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ตั้งแต่ปี 1928
ห้องสมุดเปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด
ทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้

ตัวอย่างเช่น ห้องสมุดเมืองเอสโป (Espoo City Library)
ที่ได้รางวัล ห้องสมุดยอดเยี่ยมประจำปี 2019
จากงานเทศกาลหนังสือกรุงลอนดอน (London Book Fair 2019)
โดยให้บริการและมีเทคโนโลยี กิจกรรมรองรับทุกกลุ่มคน
ทั้งผู้ที่มีความต้องการพิเศษ และผู้อพยพลี้ภัย

…………………………

ห้องสมุดเคลื่อนที่ ทั้งบนบกและในน้ำ

เชื่อไหมว่า แม้แต่ในป่าก็ยังมีห้องสมุดไปเปิดให้บริการ
เหมือนว่าถ้ารัฐเจอว่ามีคนอาศัยอยู่ที่ไหน
ก็จะจัดห้องสมุดไปให้ถึงที่
โดยเฉพาะแถวชานเมืองหรือชนบทที่มีคนไม่มาก
จะมีห้องสมุดเคลื่อนที่เดินทางไปให้บริการ
ปัจจุบันมีห้องสมุดเคลื่อนที่แบบรถ 150 คัน
มีจุดจอดถึง 12,500 แห่ง
มีเรือห้องสมุด 1 แห่ง

…………………………

ไม่ได้มีแค่หนังสือ

ห้องสมุดของฟินแลนด์เป็นมากกว่าที่อ่านหนังสือ
มันถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ให้คนมาใช้ชีวิต
ตั้งแต่กิจกรรมเวิร์กชอป โชว์ ศิลปะ การแสดง
การฝึกสุนัขมานั่งฟังเด็กอ่านหนังสือ จะได้ไม่เหงา
มีไฟล์ดิจิทัลเพื่อเรียนรู้ทุกรูปแบบ
รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

อย่างห้องสมุดโอดิ (Helsinki Central Library Oodi)
ก็มีสตูดิโอที่มีบริการยืมเครื่องดนตรี
โรงหนัง เครื่องพิมพ์สามมิติ เครื่องตัดเลเซอร์
มีโซนหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น
โซนเปิด โซนนั่งคนเดียว ที่สำหรับประชุม
ทำให้ในเมืองไม่จำเป็นต้องมีธุรกิจ Coworking Space

Antti Nousjoki สถาปนิกผู้ออกแบบเรียกห้องสมุดโอดิว่า
เป็น ‘จตุรัสเมืองในร่ม’ หรือ Indoor town square

…………………………

ให้ประชาชนช่วยกันออกแบบห้องสมุดกลางเฮลซิงกิ

ห้องสมุดโอดิ เกิดจากการตัดสินใจของประชาชน
โดยรัฐทำการสำรวจว่าคนต้องการให้สร้างอะไร
ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์หรือ ‘ฝัน’ ถึงอะไร
ส่วนการออกแบบก็จัดโครงการประกวด
ให้คนเลือกแบบที่อยากได้
ซึ่งสุดท้ายบริษัท ALA Architects เป็นผู้ชนะ

เนื่องจากตั้งอยู่ตรงข้ามกับรัฐสภา
ห้องสมุดโอดิ จึงสะท้อนคุณค่าที่ลึกและสูงค่า
ถึงสิทธิของชาวฟินแลนด์ในการเลือก
และร่วมออกแบบสังคมที่พวกเขาต้องการ

ห้องสมุดโอดิ ได้รับรางวัล Public Library of the Year 2019
จากองค์กรสหพันธ์ระหว่างประเทศทางด้านห้องสมุด(IFLA)

…………………………

วัฒนธรรมการอ่านคือสมบัติของชาติ

วัฒนธรรมการอ่านหนังสือถือเป็นจุดเด่นของชาวฟินแลนด์
ในหนึ่งปี…
คนฟินแลนด์ 1 คนยืมหนังสือห้องสมุดประมาณ 12 เล่ม
จ่ายเงินซื้อหนังสือ 11,000 กว่าบาท
สถิติยืมคืนหนังสือรวมกว่า 4 ล้านครั้ง
มีการตีพิมพ์หนังสือใหม่กว่า 10,000 เล่ม

เมื่อมีสาธารณูปโภคที่ดี มีสวัสดิการห้องสมุดคุณภาพ
ไม่แปลกใจเลยที่ฟินแลนด์มีอัตราการอ่านออกเขียนได้ 100%

หวังว่าในอนาคตนิสัยรักการอ่านก็จะยังอยู่กับชาวฟินแลนด์ต่อไป

…………………………

การเรียนรู้ของชาวฟินแลนด์ไม่เคยจำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน
แต่ทุกที่สามารถเปลี่ยนเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
ห้องสมุดของเขาก็สมกับการเป็นห้องสมุดของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน จริงๆ

Exit mobile version