ยิ่งยอดช้อปออนไลน์โตมาก กล่องพัสดุก็กองสูงตาม
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่ธุรกิจ Logistics จะคึกคัก
โดยเฉพาะการส่งพัสดุในไมล์สุดท้าย
หรือที่เรียกว่าตลาด Last-Mile Delivery
จะมีมูลค่าตลาดประมาณ 36,000 – 37,000 ล้านบาท ในปี 2563
เติบโตเฉลี่ยถึงปีละ 40%
ธุรกิจนี้จึงมีทั้งหน้าเดิมกระโจนเข้ามาเล่น และหน้าใหม่เข้ามาท้าชิง
ทำให้การแข่งขันสูงมาก สังเกตได้จากค่าบริการเริ่มต้นเฉลี่ยทั้งตลาดลดลงเหลือ 27 บาทในปี 2019 จากปีก่อนที่ค่าบริการเริ่มต้นเฉลี่ย 34 บาท
จนน่าจับตามอง ว่าใครจะครองตลาดได้มากน้อยแค่ไหน
แล้วถ้ามันอิ่มตัว จะมีทางขยับไปไหนได้อีกบ้าง
ก่อนอื่น มาดูกันว่าอันดับต้นๆ ในตลาดมีใครบ้าง รายได้เท่าไหร่ เติบโตแค่ไหนในปีที่ผ่านมา
📮 ไปรษณีย์ไทย
ปี 2559 รายได้ 25,199 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 27,484 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 29,298 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 27,532 ล้านบาท
เติบโตลดลง 6% ในปี 2562📮
🟧 Kerry
ปี 2559 รายได้ 3,228 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 6,673 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 13,668 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 19,895 ล้านบาท
เติบโต 46% ในปี 2562 🟧
🟪 Lazada Express
ปี 2559 รายได้ 1,027 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 614 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 2,832 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 4,685 ล้านบาท
เติบโต 65% ในปี 2562 🟪
⚡️ Flash Express
ปี 2561 รายได้ 46.5 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,123 ล้านบาท
เติบโต 4,464% ในปี 2562 ⚡️
📨 NIM Express
ปี 2559 รายได้ 758 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 892 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 997 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 1,020 ล้านบาท
เติบโต 2% ในปี 2562 📨
🟡 SCG EXPRESS
ปี 2559 รายได้ 0.1 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 47.7 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 316 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 612 ล้านบาท
เติบโต 94% ในปี 2562 🟡
บางคนสงสัยว่า ช่วงแรกจะเติบโตมากก็ไม่ได้แปลก
แต่ที่น่ากลัวคือตลาดขนส่งไทยดูจะเต็มอิ่มได้ง่าย เพราะขนาดประชากรที่ไม่ได้มาก เทียบกับตลาดในประเทศอื่นๆ ยิ่งคู่แข่งมากขนาดนี้ด้วย
แต่อย่าลืมว่า ไทยนั้นเป็นศูนย์กลางสำคัญหนึ่งของภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ซึ่งโลเคชั่นนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในธุรกิจโลจิสติกส์
นั่นแปลว่า ยิ่งแย่งส่วนแบ่งเค้กในไทยได้เยอะ
ยิ่งมีโอกาสเติบโตขยับขยายเครือข่ายไปทั่วภูมิภาคได้ดีด้วย
เหมือนที่ Flash Express ที่แม้จะหน้าใหม่ในวงการ
แต่ก็ประกาศระดมทุนกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อขยับขยายบริการออกไปในภูมิภาคข้างเคียงแล้ว
