ในยุคที่ดิจิทัลคือกุญแจสำคัญปฏิเสธไม่ได้ว่า สตีฟ จ๊อบส์, บิล เกตส์, อีลอน มัสก์ และมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก คือ 4 จตุรเทพของยุค ที่บุกเบิก สร้างสรรค์ และมีส่วนสำคัญในยุคสมัยของเราแทบทุกลมหายใจ
เคยสงสัยไหมว่า เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนที่เทคโนโลยียังเป็นเรื่องใหม่ เอไอยังเป็นแค่ความฝันในวรรณกรรม 4 เจ้าพ่อเทคโนโลยีที่รวยล้นฟ้าจากดิจิทัล เขาทำอะไรกันอยู่นะ?
และนี่คือสิ่งที่พวกเขาทำตอนเป็นวัยรุ่น ซึ่งพีคและบ่งบอกตัวตนในช่วงชีวิตนั้นของเขาเหล่านี้ก่อนที่จะมาเป็นคนสำคัญของโลกปัจจุบันได้ไม่มากก็น้อย
— สตีฟ จ๊อบส์ —
– มีประวัติการใช้ยาเสพติด
มีการเปิดเผยโดย FBI ว่า สตีฟ จ๊อบส์ เคยมีประวัติการใช้ยาเสพติดในช่วงวัยรุ่นด้วย
– ขอข้าวกินที่วัด
ระหว่างดรอปเรียนสตีฟฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่เด็กๆ ทำให้พ่อแม่บุญธรรมของเขายอมยกเงินเก็บเกือบทั้งชีวิตให้เขาได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่พอเรียนไปได้สักพัก เขารู้สึกว่าเรียนไปก็ไร้ค่า (ยกเว้นวิชาออกแบบตัวอักษร) เลยลาออก ไม่มีทั้งที่พักและเงิน ต้องนอนที่พื้นห้องของเพื่อน และเดินไปขอข้าวกินที่วัดฮาเรกฤษณะอาทิตย์ละมื้อ
– ปฏิเสธความเป็นพ่อกับลูกคนแรก
เรื่องน่าเจ็บปวดที่โด่งดังเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ ‘ลิซ่า’ ลูกสาวคนแรกของจ๊อบส์ ที่เขาไม่ยอมรับเธอเป็นลูก ไม่แยแสเมื่อเธอตกตระกำลำบาก แม้ว่าตอนนั้นเขาจะมีทรัพย์สินมากมาย และมีการตรวจ DNA แล้วว่าเธอเป็นลูกของเขาจริง
แม้สตีฟ จ๊อบส์จะขึ้นชื่อด้านความทำงานด้วยยาก ใจร้ายกับคนรอบตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือตัวเร่งสำคัญในการสร้างสรรค์สวนอีเดนแห่งยุคสมาร์ทโฟนนี้จริงๆ
— บิล เกตส์ —-
– บิลเกตส์นั้นเก่งกาจด้านคอมพิวเตอร์ เขาจึงได้รับความไว้วางใจจากอาจารย์ ให้ช่วยเขียนโปรแกรมจัดตารางสอนให้โรงเรียน ซึ่งเขาก็ช่วยจริงๆ และยังจัดการให้โปรแกรมเอาชื่อของเขาไปใส่ในห้องเรียนมีแต่ผู้หญิงด้วย
– แฮกเครื่องบินให้บินกลับมารับ
เรื่องเกิดที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก เมื่อบิล เกตส์ มาสายและตกเครื่อง เขาจึงวิ่งเข้าห้องควบคุม และเริ่มกดนู่นนี่เพื่อให้เครื่องบินกลับมารับ เพื่อนของเขาคิดว่าต้องถูกตำรวจจับแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าเครื่องบินกลับมารับเขาจริงๆ
– เป็นสายซิ่ง
จนโดนตำรวจจับในข้อหาขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ และฝ่าไฟแดง
แม้วีรกรรมของบิล เกตส์ ในวัยเด็กจะดูแสบ แต่อาณาจักรไมโครซอฟต์ของเขานั้นไปได้ดี และทำให้เขาติดอันดับมหาเศรษฐีของโลกอยู่หลายปี จนสามารถก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศลที่เขาและภรรยาบริจาคทรัพย์สินให้จำนวนมากทุกปี
— อีลอน มัสก์ —-
อีลอน มัสก์ในวัยเด็กนั้น มีเรื่องราวแบบทที่เด็กอัจฉริยะมักจะมี คือ
– อ่านหนังสือวันละ 2 เล่ม
– จมกับไอเดียประดิษฐ์จนครอบครัวคิดว่าเขาหูหนวก และพาเขาไปทดสอบการได้ยินที่โรงพยาบาล
– ขายเกมที่เขียนเองตอนอายุ 12
จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ที่เขาจะร่ำรวยจากการขาย Startups และยังเป็นผู้ก่อตั้ง SpaceX และ CEO Tesla Motors ด้วยภาพลักษณ์เศรษฐีอัจฉริยะแบบตัวละครไอรอนแมน
อีลอน มัสก์ ยังตั้งชื่อลูกคนล่าสุดคือ X Æ A Xii (อ่านว่า X Ash A Twelve หรือ เอ็กซ์ แอช เอ ทเวลฟ์) สมกับเป็นชื่อลูกอัจฉริยะมากๆ เพราะความหมายของชื่อนั้นสื่อถึงตัวแปร ปัญญาประดิษฐ์ และเครื่องบินรบ
— มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก —-
– เขียนโปรแกรมแชท Zucknet ตอนอายุ 12
โดยพ่อของเขาใช้โปรแกรมนี้ในคลินิคทำฟัน เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่หน้าห้อง และคนในครอบครัวยังได้ใช้โปรแกรมนี้พูดคุยกันอีกด้วย
– เขียนโปรแกรมเพลง Synapse ที่ AOL และ Microsoft ขอซื้อ แต่มาร์คปฏิเสธไม่ขาย
– ‘แฮก Harvard สร้าง Facemash’
เว็บไว้โหวตคนที่ชอบ ซึ่งมีคนเข้ามาใช้งานถึง 20,000 คนใน 4 ชม. และนี่ก็เป็นต้นกำเนิด facebook นั่นเอง
ปัจจุบัน มาร์คคือผู้ก่อตั้ง Facebook ที่เรากำลังใช้งานกันอยู่นี้ ซึ่งเป็น 1 ในโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลและทำให้รัฐบาลหลายประเทศเริ่มหันมาจัดการกับระบบระเบียบสังคมบทโลกออนไลน์อย่างจริงจังมากขึ้นอีกด้วย
ที่มา:
biography, thairath, quora, komchadluek, mgronline, naukrinama