เบิ้ลเครื่อง ! รถสัญชาติจีนมาแรง…บุกตลาดรถ EV โลก
ส่องแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแดนมังกร ที่ผงาดขึ้นเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ สู้ยุโรป อเมริกา ญึ่ปุ่น
ในอดีตหากพูดถึงผู้ผลิตรถยนต์ อาจนึกออกเพียงไม่กี่สัญชาติ ที่คุ้นหูกันจากฝากฝั่งตะวันตกคงหนีไม่พ้นรถยุโรปหรืออเมริกา ส่วนในโลกตะวันออกก็ต้องนึกถึงรถญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก
ทว่าโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์ตอนนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เมื่อมังกรเริ่มขยับตัว ตั้งแต่ปี 2009 รถยนต์แบรนด์จีนเติบโตก้าวกระโดด โดยเฉพาะแบรนด์ท้องถิ่น และเมื่อรวมกับการผลิตจากแบรนด์ต่างชาติ ทำให้จีนมีจำนวนรถยนต์มากกว่าที่ผลิตในยุโรป หรือแม้แต่รถยนต์ที่ผลิตในอเมริกาและญี่ปุ่นรวมกัน
ส่งผลให้ จีนเป็นทั้งตลาดรถยนต์และผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกพร้อมกันเป็นที่เรียบร้อย ดึงเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่ประเทศ เพราะประสิทธิภาพรถยนต์จากจีน แม้จะขึ้นมาติด Top ของโลกช้า แต่ก็มาแบบไม่น้อยหน้าแบรนด์รถยนต์ดัง ๆ ที่อยู่มาก่อน โดยเฉพาะประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า E
#Agenda เปิดวาร์ป 4 รถยนต์ EV แบรนด์จีน ที่กำลัง start an engine ลุยครองตลาดรถยนต์โลก แบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน!
1. BYD │ Build Your Dream
BYD ก่อตั้งปี 1995 โดย Wang Chuanfu เริ่มต้นมาจากบริษัทผลิตแบตเตอรี่โทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน เมื่อปี 2002 บริษัท BYD เข้าซื้อบริษัทรถยนต์ Tsinchuan Automobile เข้ามาเป็นบริษัทลูก
แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “BYD Auto”
ในช่วงแรกยังคงผลิตรถยนต์น้ำมัน อิงตามรถยนต์ของญี่ปุ่นอยู่ กระทั่งปี 2008 สามารถผลิตรถพลังไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) คันแรกของโลก จากความชำนาญที่เคยทำบริษัทด้านแบตเตอรี่มาก่อนและเริ่มได้รับความสนใจในแวดวงรถยนต์โลก
ปัจจุบันรถยนต์ของ BYD ที่วางขายมีทั้งรถขนาดเล็ก ขนาดคอมแพกต์ และรถขนาดกลาง โดยที่มีทั้งรถแฮทช์แบ็ก ซีดาน เอ็มพีวี และเอสยูวี รวมไปถึงมีทั้งรถไฟฟ้า ไฮบริด และใช้เครื่องยนต์ปกติ มีมูลค่าบริษัท 4.7 ล้านล้านบาท (เป็นรองแค่ Tesla และ Toyota)
—
2. GWM │ Great Wall Motor
GWM ก่อตั้งปี 1984 โดย Wang Fengying เริ่มต้นมาจากการผลิตรถบรรทุก ที่มีจุดเด่นด้านความทนทาน จากนั้นจึงต่อยอดไปสู่รถกระบะ Pick-up ได้รับความนิยมจนตีตลาดจีนแตก ปี 1998 ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของตลาดรถ Pickup ในจีนได้สำเร็จ และขยายไปสู่ประเภทรถยนต์อื่น ๆ เช่น SUV
อีกหนึ่งความสำเร็จของ GMW คือ การเป็นค่ายรถยนต์รายแรงของจีนที่ได้ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2003 และยังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ในปี 2011 อีกด้วย
ปัจจุบัน GMW มีมูลค่าบริษัทกว่า 2.6 ล้านล้านบาท มีรถยนต์ 4 แบรนด์ ได้แก่
– HAVAL เป็นแบรนด์รถยนต์ประเภท SUV ยอดขาดสูงสุดในจีน 11 ปีซ้อน
– ORA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ที่เกิดจากการลงทุนวิจัยและพัฒนาของบริษัทนานกว่า 10 ปี
– WEY แบรนด์รถยนต์ Smart SUV เป็นแบรนด์เจาะกลุ่มตลาดรถพรีเมี่ยม หรูหรา คุณภาพสูง
– GWM POER แบรนด์รถกระบะถึกทน ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของ GMW ตั้งแต่สมัยบุกเบิก
นอกจากนี้ ยังมีการขยายการผลิตไปในต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง
—
3. NIO
แบรนด์ NIO เป็นแบรนด์รถยนต์จีนที่ก่อตั้งโดย William Li ตั้งแต่ปี 2014 เป็นม้ามืดที่น่าจับตามอง เพราะว่าแม้บริษัทจะก่อตั้งไม่ถึง 10 ปี ก็สามารถขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของแบรนด์รถหรูทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz หรือ BMW
William Li เริ่มต้นจากการทำ Startup ด้านอินเทอร์เน็ต และตามด้วยก่อตั้งบริษัท Bitauto Holdings Limited ที่ให้บริการข้อมูลด้านรถยนต์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2010
.
ปี 2014 เริ่มมาจับธุรกิจรถยนต์สปอร์ตไฟฟ้าในปีภายใต้บริษัท NIO Inc. ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จากกระแสรถ EV ที่กำลังมาแรงยิ่งทำให้นักลงทุนและกองทุนมาร่วมเป็นพันธมิตร เช่น Baillie Gifford, BlackRock, Temasek และ Tencent ใช้เวลาเพียง 4 ปี ก็สามารถพา NIO Inc. เข้าตลาดหลักทรัพย์ NYSE ได้สำเร็จ
.
ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัท 2.2 ล้านล้านบาท สูสีไม่แพ้กันกับรถยนต์ High Class อย่าง Mercedes-Benz หรือ BMW
—
4. SAIC MOTOR │ Shanghai Automotive Industry Corporation
บริษัทรถยนต์สัญชาติจีนที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1955 ก่อตั้งโดย Chen Hong เริ่มต้นจากธุรกิจโรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามสิ้นสุด ปี 1984 บริษัทจึงได้มีการร่วมทุนกับ Volkswagen และ General Motor
.
จากจุดเด่นของ SAIC ที่เชี่ยวชาญในการประกอบยานยนต์ ตั้งแต่ช่วงปี 2000 เป็นต้นมา SAIC เหล่าแบรนด์รถยนต์ระดับโลกจึงเข้ามาร่วมทุนและผลิตยนต์ส่งออกขาย ทำให้ SAIC เติบโต มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนสามารถผลิตรถยนต์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของจีน และอันดับ 12 ของโลก
.
โดย SAIC เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย เช่น Roewe, Maxus, Volkswagen, Chevrolet, Buick และ Cadillac ซึ่งมีทั้งแบรนด์ที่ขายภายใต้บริษัทตัวเอง และแบรนด์ที่ร่วมือกับบริษัทต่างประเทศ เช่น MG ซึ่งเป็นการร่วมกับกับบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ของไทย
.
มูลค่าของบริษัท SAIC อยู่ที่ 1.2 ล้านล้าน มีสายการผลิตรถยนต์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถน้ำมัน รถไฟฟ้า ทั้งระดับธรรมดาและพรีเมี่ยม รวมไปถึงรถบัส รถบรรทุก รถเมล์ ซึ่งกำลังส่งออกไปทั่วโลก
—
การขยับตัวของแบรนด์รถยนต์ EV จากจีนแผ่นดินใหญ่ สร้างแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงไปสู่วงการยานยนต์โลก เนื่องจาก กระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่เป็นมิตรต่อโลกกำลังมาแรง เป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้รถยนต์จีนอาจจะทะยานขึ้นเป็นรถยนต์ที่รับความนิยมที่สุดของโลก…ก็เป็นได้
ที่มา: wikipedia, longtunman, Autodeft, Thairath, companiesmarketcap, TheStandard