เจอแน่ !!! 10 Mega Trends แห่งปี 2022
ไม่ตกรถกับกระแสแห่งอนาคต โลกแห่งเทคโนโลยีและความยั่งยืน
.
หลังจากปี 2021 มนุษย์โลกสะบักสะบอมกับวิกฤตโรคระบาด สนิทกับหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ พักผ่อนเกินพออยู่กับบ้าน ชินกับการทำงานและเรียน From Home ในที่สุดก็เข้าสู่ปีใหม่ 2022 อย่างเป็นทางการ พ่วงด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และรูปแบบวิถีชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปจากอดีต
.
#Agenda ชวนจับตา 10 Mega Trends แห่งปี 2022
เตรียมตัวให้พร้อมกับอนาคต จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน !
1) Pandemic to Endemic – จากโรคระบาด กลายเป็นโรคประจำถิ่น ผู้คนปรับตัวให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คาดการณ์กันว่าปี 2022 จะเป็นซีซั่นสุดท้ายของ “โควิด-19” แล้ว ก่อนที่จะอำลาวงการไปเป็นเพียงแค่โรคประจำถิ่น เช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย หรือโรคมาลาเรียในทวีปแอฟริกา เหมือนในอดีต
เนื่องจากโลกเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคได้ดียิ่งขึ้น ประชากรส่วนใหญ่เริ่มได้รับวัคซีน มีภูมิคุ้มกันและต้านทานความเจ็บป่วยของโรคได้ดี แม้ว่ากำลังมีการระบาดของเชื้อกลายพันธ์ุชนิดใหม่ แต่นักวิทยาศาสตร์และแพทย์หลายคนมั่นใจว่ามนุษย์ได้ก้าวผ่านจุดเลวร้ายที่สุดของโรคระบาดครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2) Hybrid Working – ผลจากช่วงกักตัว ทำให้ 91% ของพนักงานต้องการ “Hybrid Working” ต่างจากก่อนหน้าที่มีเพียง 9% เท่านั้น
เมื่อโรคระบาดเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานยาวนานกว่า 2 ปี ส่งผลให้แนวทางแบบ Hybrid Working เติบโตอย่างก้าวกระโดด และเริ่มกลายเป็นความปกติใหม่ของสังคม ผลสำรวจจาก Cisco Global Workforce Survey เผยว่า องค์กรธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายของแรงงานยุคใหม่ที่กำลังมองหา “ความยืดหยุ่น” และ “การทำงานทางไกล” (แบบที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน)
ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เปิดประตูความสะดวกสบายสู่โลกของการทำงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Workplace กำลังถูกลดบทบาทและแทนที่ด้วยความสำคัญของประสิทธิภาพการทำงานอย่างแท้จริง โดยไม่จำเป็นต้องให้ตัวของพนักงานมาอยู่ร่วมกันในที่ทำงานแบบเดิมอีกต่อ
3) Crypto payment – ช่วง Covid ทำให้คนหันมาใช้งานธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น จึงเกิด Platform มากมายที่ยอมรับ Crypto ในการชำระเงิน
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา Cryptocurrency ได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเอง กลายเป็นระบบทางการเงินแห่งอนาคตที่ถูกยอมรับมากขึ้นจากคนทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการลงทุนอีกต่อไป แต่ครอบคลุมไปทุกด้าน เช่น Save Invest Spend การออม การใช้จ่าย เป็นต้น
ผลพวงจากโรคระบาด ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ธุรกรรมออนไลน์เป็นที่นิยม ไม่เพียงแต่ป้องกันเชื้อโรคจากการสัมผัส แต่ยังมีปลอดภัยแก่สินทรัพย์ในกระเป๋าของเราอีกด้วย ในปี 2022 จึงมีโอกาสสูงที่ Crypto payment จะขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับการจับจ่ายใช้สอย และมีอิทธิพลอย่างยิ่งในระบบการเงินโลก
4) The Race to Space – ประเทศพัฒนาแล้วกำลังแย่งชิงพื้นที่บนอวกาศ ซึ่งเป็นการแสดงความเหนือกว่าอีกฝ่าย
การประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของประเทศมหาอำนาจจะไปไกลมากกว่าดาวเคราะห์ที่ชื่อ “โลก” เป็นความจริงที่ว่า “มนุษย์โลกไปอวกาศสำเร็จมานานแล้ว” แต่บรรดาประเทศพัฒนาแล้ว อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย อินเดีย บราซิล ญี่ปุ่น ฯลฯ กำลังวางแผนลงทุนด้านเทคโนโลยีด้วยเม็ดเงินมหาศาล เพื่อผลักดันให้ประเทศของตนเองสามารถสร้างชื่อพื้นที่ของ “อวกาศ” ปี 2022 นี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของหน้าประวัติศาสตร์การแข่งขันด้านอวกาศตอนใหม่ ที่ดุเด็ด เผ็ดมัน และฟาดฟันมากขึ้นกว่าเดิม
5) Sustainable Living Plan – แผนการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมมากขึ้น
เทรนด์ความยั่งยืน ยังคงได้ไปต่อในปี 2022 เพราะนอกจากเรื่องโรคระบาดแล้ว ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นสาเหตุของภัยธรรมชาติจำนวนมากในปีที่ผ่านมา ประชากรโลกจะให้ความสำคัญต่อแผนการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของความยั่งยืนมากขึ้นอีกระดับ เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้มาอุดช่องว่างช่วยอำนวยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ หลายบริษัทและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่เริ่มหันมาเปลี่ยนแผนธุรกิจที่เป็นมิตรกับโลกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ การส่งเสริมการรีไซเคิล การจัดการขยะพลาสติก การผลักดันพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ทั้งหมดจะกลายเป็นความนิยมในอนาคตอันใกล้ ใครที่ยังไม่ปรับตัว ระวังจะตกยุค!
6) Metaverse – การสร้างโลกเสมือนจริงที่จะพลิกโฉมธุรกิจการซื้อสินค้าและบริการผ่านอุปกรณ์ AR และ VR
2565 กำลังจะเริ่มต้นยุคแห่งการพัฒนา “จักรวาลนฤมิต” หรือ Metaverse อย่างจริงจัง หลังจากที่ปี 2564 ที่ผ่านมา Facebook ได้ขยับตัว-รีแบรนด์ตัวเองครั้งใหญ่ไปสู่ Meta เพื่อเปลี่ยนทิศทางการบริการงานไปสู่การสร้างโลกเสมือนจริงบนระบบออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้นประเทศชั้นนำและบริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่งก็เริ่มเดินหน้าการสร้างแพลตฟอร์ม Metaverse ของตัวเองขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
ความท้าทายก่อนจะมุ่งหน้าสู่โลกเสมือนจริงใบใหม่ คือ การเตรียมพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์และระบบที่จะมารองรับ ที่ต้องพัฒนาให้ล้ำหน้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AR (Augmented Reality) หรือ VR (Virtual Reality) ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก
7) Ultra-Fast Fashion – เสื้อผ้าจะเปลี่ยนคอลเลคชันทุก 1-2 สัปดาห์ เร็วยิ่งกว่า Fast Fashion ที่เปลี่ยนคอลเลคชันใน 6 สัปดาห์
แฟชั่นยุคต่อไปจะเร่งสปีดไปมากกว่า “Fast Fashion” คำที่เคยอธิบายถึงกระแสความนิยมของเครื่องแต่งกายที่มาไว ไปไว จนบางส่วนจะกลายสภาพเป็นขยะเสื้อผ้ามหาศาลบนโลก ทั้งนี้ยังรวมไปถึงความเร่งในการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานที่ไม่เป็นธรรม แต่! 2022 มีแนวโน้มว่า “มันจะยิ่งมาไว ไปไว” ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัวภายใต้ชื่อที่ว่า “Ultra-Fast Fashion”
จุดเริ่มต้นมาจากการเติบโตของธุรกิจออนไลน์และแบรนด์ขนาดเล็ก ไม่มีหน้าร้าน แต่เติบโตก้าวกระโดด โดยใช้เวลาตั้งแต่วางคอนเซปต์ ออกแบบ เสาะหาวัตถุดิบ ผลิต จัดส่ง และวางจำหน่าย (เรียกกระบวนการทั้งหมดว่า supply chain) ภายใน 1-2 สัปดาห์ เทียบกับแบรนด์ทั่วไปอย่าง Zara หรือ H&M ที่ใช้เวลาเฉลี่ย 6 สัปดาห์ – 6 เดือน
ในโลกธุรกิจคงเป็นตัวเลขที่ดูดีไม่น้อย แต่เป็นความท้าทายใหม่ของแบรนด์เสื้อผ้าเดิมที่กำลังถูกดิสทรัป อย่างไรก็ดี ในมิติของสิ่งแวดล้อม Ultra-Fast Fashion ยังคงติดเครื่องหมายคำถามตัวโต ๆ ถึงเรื่องความคุ้มค่าและความยั่งยืนในระยะยาว
8) Quantum computing – บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี และกลุ่มมหาอำนาจกำลังทุ่มทุนในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัม
อีกหนึ่งกระแสที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างเงียบ ๆ คือ Quantum computing หรือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่ที่อาศัยปรากฏการณ์เชิงควอนตัมในการช่วยประมวลผลข้อมูล ส่งผลให้เกิดการประมวลผลที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปอย่างมหาศาล
แม้ว่าเราอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ Quantum computing มากสักเท่าไร แต่มีมูลค่าการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Google, Microsoft, IBM, หรือแม้แต่ประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป ต่างถูกทุ่มลงในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง จนเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดใน Tech Universe
9) NFT art – มีมูลค่าตลาดปัจจุบัน 7.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21,900% จากปีที่แล้ว
ควันหลงของกระแส Cryptocurrency ยังส่งมาถึงโลกของศิลปะกับโอกาสของ NFT art ในปีหน้า 2022 คาดการณ์ว่าจะพุ่งทะยานมากกว่าปีที่ผ่านมากที่เติบโตกว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ มาตรฐานของ NFT จะช่วยให้ระบบสามารถเก็บข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสำคัญหรือของสะสมที่มีจำนวนจำกัดบนโลกดิจิทัล
ปี 2022 อาจเป็นโอกาสที่สดใส เปิดทางให้ศิลปินหน้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง นักกีฬา นักร้อง ดารา นักดนตรี และบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่กระโดดเข้าเปิดตัวศิลปะดิจิทัล ใครที่กำลังเล็งต่อยอดกับ NFT อยู่ คุณยังคงได้ไปต่อ เพราะภาพรวมของตลาดยังมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น
10) Gamefi – กระแสเกมแนว Play-to-Earn เล่นเกมแล้วได้เงิน มีธุรกรรมราว 80-100 ล้านรายการในแต่ละวัน
DappRadar รายงานว่ากว่า 50% ของ Wallet Crypto ที่ผูกกับแพลตฟอร์มถูกใช้ไปเพื่อการเล่นเกมส่วนเหตุผลเรื่อง DeFi นั้นตกลงไปเหลือ 45% ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2022 โดยเฉพาะกลุ่ม Play-to-Earn หรือ Pay-to-Play
จากการประเมินพบว่าสาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าวมีที่มาจากกลุ่มผู้ที่สนใจ Cryptocurrency ล้วนเป็น Gamer และสนใจ Innovation เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อทั้งสองความชอบมาปะทะกัน จึงกลายเป็นความหลงใหลที่ดึงดูดให้ผู้เล่นเข้ามาร่วมสนุก แบบพุ่งแรงฉุดไม่อยู่